แชร์ประสบการณ์การเรียนและการใช้ชีวิตที่รัสเซียของน้องอัยมี่ กาแบ จาก Kursk State Medical University

ตัดสินใจเรียนต่อ

เดิมอัยมี่อยากมาศึกษาต่อที่ต่างประเทศอยู่แล้วค่ะ ก่อนที่จะตัดสินใจมาเรียนที่รัสเซีย ได้มีดูที่ประเทศจีนมาก่อนด้วย แต่พอได้คุยกับรุ่นพี่ดูแล้วด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างเลยเลือกที่จะมาเรียนที่ประเทศรัสเซียค่ะ เลยขอคอนแทคจากรุ่นพี่มาและได้คุยกับพี่ฟาฎีลา(พี่ที่ดูแลโซนภาคใต้หรือสามจังหวัด) หลังจากคุยคร่าวๆ เรื่องรายละเอียดการสมัครและอื่นๆ แล้วก็ได้ติดมาคุยกับทาง Studywiz  ถ้าจำไม่ผิดคือผ่านทาง Facebook inbox ค่ะ

พี่ฮั้วเจ้าหน้าที่ที่  Studywiz  ก็ส่งรายละเอียดมหาวิทยาลัยให้เลือกดูทั้งจากประเทศจีนและรัสเซีย การเรียนการสอนรวมถึงค่าเทอม ค่าหอและอื่นๆ ต่อปีให้ด้วย

ในที่สุดก็ตัดสินใจมาที่ประเทศรัสเซียค่ะ เพราะว่ามันอยู่โซนยุโรปด้วย(ได้เที่ยว555)  ค่าครองชีพก็ประมาณที่ไทยก็ถือว่าโอเครเลยค่ะ ตอนแรกอัยมี่เองก็แอบกังวลว่ามารัสเซียแล้วจะมีเรื่องเกี่ยวกับก่อการร้ายรึเปล่า เพราะเราก็เป็นมุสลิมด้วย รวมไปถึงคุณแม่ก็ห่วงเพราะเป็นลูกสาวและอยู่ไกลบ้าน แต่ก่อนตัดสินใจก็ได้คุยกับทางรุ่นพี่มุสลิมที่กำลังศึกษาอยู่ พี่เค้าบอกว่าปลอดภัยมากๆ คนที่นี่ให้เกียรติกันมาก ไม่อันตรายอะไรเลย ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงคือเค้ายิ่งให้เกียรติเลยค่ะ (ชอบมากๆ) ก็เลยตัดสินใจมาที่นี่ จะได้ช่วยดูแลกันได้ค่ะ

ทาง  studywiz ช่วยอัยมี่ดำเนินเรื่องเอกสารการศึกษาต่อ visa ที่พัก ตั๋วเครื่องบินและอื่นๆ ตอนมาที่นี่ครั้งแรกก็มีพี่ฮั้วที่ช่วยมาดูแลหนูกับเพื่อนๆ รุ่นหนูด้วยเหมือนกันค่ะ รู้สึกอุ่นใจมากค่ะ เพราะเรามาอยู่ต่างถิ่น 55555 (ขอบคุณนะคะ) แต่ตอนนั้นก็มีคุณพ่อที่เดินทางมาส่งด้วยเหมือนกัน

พอมาถึงที่สนามบินโดโมเดียโดวา (DME)  กรุงมอสโคว ประเทศรัสเซีย ก็มีรถบัสและอาจารย์จากมหาวิทยาลัย 2 ท่านมาต้อนรับและดูแลเราจนถึงเมืองครูสก์เลยค่ะ พอไปถึงที่หอของมหาลัยก็มีรุ่นพี่มาเลี้ยงต้อนรับและทำอาหารให้กินด้วยค่ะ น่ารักและอบอุ่นมากเลยใช่มั้ยคะ รู้สึกประทับใจและดีใจมากๆ ที่ได้ตัดสินใจมาเรียนที่นี่ รุ่นพี่น่ารักทุกคนเลย ชวนไปกินข้าวที่บ้าน พาไปรู้จักมหาวิทยาลัย ห้าง ร้านอาหาร และพาไปซื้อของเครื่องใช้ต่างๆด้วยค่ะ น่ารักมากๆเลย  

เรียนแพทย์ ใช้ชีวิตที่รัสเซีย

ช่วงที่มาเรียนที่นี่แรกๆ เราต้องปรับตัวหลายอย่างมาก เหมือนได้เริ่มต้นใหม่อารมณ์ประมานนั้นเลยค่ะ ทุกคนที่มาที่นี่เริ่มนับหนึ่งใหม่กันทุกคน อุปสรรคในช่วงแรกๆ อาทิ เช่น ภาษา (ภาษาอังกฤษสำเนียงรัสเซีย)  ฟังยากมาก เร็วมาก จับประเด็นแทบไม่ทันเลยค่ะ  อากาศด้วยหนาวมากก กับหนูยังโอเครอยู่แต่กับบางคนต้องกินยาแพ้อากาศไปด้วยเลย อยู่กับฮีตเตอร์ตลอด 55555 อาหารการกินด้วยค่ะ ยิ่งเราเป็นมุสลิม ช่วงแรกๆ ที่มานี่อาหารฮาลาลไม่ค่อยมี แต่ยังมีไก่ฮาลาล เนื้อฮาลาลอยู่บ้าง ส่วนใหญ่ก็ทำกับข้าวกินเองค่ะ แต่ตอนนี้สะดวกสบายขึ้นเยอะเลยค่ะ อาหารฮาลาลหาได้ง่ายมาก มีนักศึกษาและคนที่นี่เปิดเป็นร้านอาหารอิสลามด้วยค่ะ แล้วก็มีพวกร้านขายไก่สด เนื้อสด ไส้กรอก ฮาลาล คือรวมๆ ง่ายมาก ใช้ชีวิตง่ายกว่าหกปีที่แล้วเยอะ สมัยนั้นก็ได้อีกฟีลนึงนะคะ เรียนหนักมาก ตั้งแต่เช้าออกจากมหาลัยคือมืดแล้ว ช่วงนั้นแบ่งเวรกันทำกับข้าวมากินในเวลาพักอันน้อยนิด เพราะงั้นไม่ทันได้กินอะไรเลยค่ะ 5555 น่าสงสารนะคะ    แต่ก็ผ่านมาได้ค่ะ สนุกดี

ช่วงปีแรกวิชาไฟนอลสองตัวที่อยู่ในตาราง  ซึ่งวิชาที่โหดหินและน่ากลัวที่สุดคือวิชาไบโอ ฟังๆ ดูเหมือนจะง่ายนะคะ แต่อาจารย์โหดหินมากค่ะ ใครผ่านปีหนึ่งมาได้ ปีต่อไปก็เริ่มชิวขึ้นแล้ว เพราะผ่านภูมิต้านทานมาเยอะ 555555 พอได้มาใช้ชีวิตที่นี่สักพัก

ของใช้ มีหลายอย่างจะถูกกว่าที่ไทย บางอย่างก็ราคาพอๆ กัน เนื่องจากตอนนี้ค่าเงินรูเบิลรัสเซียจะถูกกว่าไทย สมัยก่อน 1 รูเบิลก็ประมาณ 1 บาทไทย ซึ่งที่อัยมี่รู้สึกชอบเพราะรู้สึกว่าได้เงินมากกว่าที่ไทยเท่านึงค่ะ 555 แต่ก็ขึ้นกับเรทด้วยนะคะ

เนื่องจากคนที่นี่เค้าไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษกันเลยค่ะ ถ้าออกไปข้างนอกมหาวิทยาลัยคือต้องพูดภาษารัสเซียอย่างเดียวเลย ส่วนน้อยมากๆ ที่จะยอมพูดอังกฤษด้วย ตอนที่มาแรกๆ ก็งูๆ ปลาๆ ไปค่ะ แต่มีพื้นฐานภาษารัสเซียหน่อยนึงเพราะได้เรียน

คอร์สภาษารัสเซียพื้นฐานมาก่อนก็ถือว่าโอเค แต่ของจริงพูดเร็วมากค่ะ ค่าครองชีพก็ถือว่าโอเคนะคะ ทั้งอาหารการกิน ของใช้ รวมถึง transportation ตอนหนูมาแรกๆ ถ้าจำไม่ผิดค่ารถบัส 11 รูเบิล ตอนนี้อยู่ปี 6 แล้ว ขึ้นมาเป็น 18-19 รูเบิล แล้วแต่คันค่ะ    อ้อแล้วตอนที่มาช่วงแรกไม่ต้องกังวลเรื่องภาษารัสเซียสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานนะคะ เพราะที่นี่มีคอร์สภาษารัสเซียในหลักสูตรให้เรียนไม่ต้องเสียเวลาเรียนภาษา 1 ปีเหมือนบางมหาวิทยาลัยค่ะ คือเรียนรวมกับวิชาทางสายการแพทย์ของเราเลย ได้ทั้งไวยากรณ์และหลักการพูด สนุกดีค่ะ อาจารย์น่ารัก ที่นี่การเรียนการสอนเค้าแบ่งเป็นกลุ่มนะคะ กลุ่มละไม่เกิน15คน ตอนมาแรกๆ ก็ต้องสอบเข้ากันก่อน พอสอบผ่านก็มาเลือกกลุ่มคละกับประเทศอื่น หลังจากนั้นการเรียนเค้าก็จะแบ่ง จะมีบางวิชาที่โคเป็นสองสามกลุ่มบ้าง แต่น้อยมาก ทำให้เราเรียนได้ทั่วถึงและใกล้ชิดกับอาจารย์มากขึ้น นี่เป็นอีกเหตุผลที่เลือกมาเรียนที่นี่ค่ะ การเรียนการสอนก็จะเป็นแนวที่ว่าเราต้องอ่านหนังสือเตรียมตัวมาก่อน พอเข้าคลาสแล้วครูก็จะถามคำถามเป็นออรัล(ถามตอบ) หรือเป็นควิซให้หรือเป็นเขียนบ้าง เก็บคะแนนจากตรงนี้เลย คะแนนดิบคือคะแนนสอบทั้งนั้น   ส่วนถ้ามีคำถามเพิ่มเติมตรงไหนก็ถามในคลาสเลย แล้วก็มีเรียนรวมทั้งชั้นปีแบบเป็นเลคเชอร์ค่ะ เค้าก็จะจัดตารางเรียน ตารางเลคเชอร์มาให้ เราก็ต้องถามๆ จากรุ่นพี่ ทั้งเรื่องของอาคารเรียน ตึกวิชาเรียน ห้องเรียนต่างๆ เป็นแนวที่เราต้องเดินเรียนไปแต่ละภาควิชา รวมๆ ถือว่าโอเครนะคะ อาจารย์อาจจะมีดุ บ้างแต่ใจดีทุกคนแหละ อิอิ  

จุดเปลี่ยน

ระหว่างที่เรียนหนูได้ฝึกการพูดและฝึกความมั่นใจจากการ present  งานหน้าห้อง จากการตอบคำถามแบบออรัล ฝึกการฟังจากครู เพื่อนต่างชาติทั้งภาษาอังกฤษและรัสเซียในคลาสเอย นอกคลาสเอย ทำให้เรามีความพัฒนา กล้าคิด กล้าพูดกล้าทำ กล้าทุกอย่าง 555 ไปไหนมาไหนคนเดียว ทำธุระเอง หรือแม้แต่เปลี่ยนไฟเอย เปลี่ยนท่อน้ำเอย 555 มันท้าทายดีนะคะ เพราะก่อนที่จะมาที่นี่อยู่ที่บ้านคือไม่ต้องทำอะไรเลยมีพี่เลี้ยงและคนงานที่บ้านทำให้ทุกอย่างถือว่าสบายเลยค่ะ 555 ถ้าถามว่าทำไมถึงเลือกมาเรียนที่นี่ เพราะอยากลองใช้ชีวิตคนเดียวดูบ้าง อยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ เรียนรู้วัฒนธรรมบ้านเค้าที่แตกต่างจากมุมมองบ้านเรา โดยส่วนตัวคนไทยส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นในคลาสเพราะกลัวว่าตัวเองจะตอบผิด แต่ที่นี่สอนให้รู้ว่าจะตอบผิดก็ไม่เป็นไร เพราะมันเป็นการพูดคุย แสดงความคิดเห็นกับเพื่อนๆและอาจารย์  ไม่ใช่การเรียนแค่จำแล้วไปทำข้อสอบค่ะ

ข้อคิดคำแนะนำสำหรับผู้สนใจมาเรียนที่ KSMU 

แนะนำให้เตรียมตัวเรื่องภาษาอังกฤษก่อนมาจะดีกว่าค่ะ  ถ้ามีพื้นฐานการพูดเข้าใจระดับนีง มาเรียนจะได้เข้าใจง่าย เพราะด้วยเรื่องสำเนียงด้วย อย่างที่ได้แจ้งไว้ในหัวข้อด้านบนก่อนจัดแยกกลุ่ม จะมีให้สอบวัดพื้นฐานวิชา Biology Chemistry ภาษารัสเซีย (แล้วแต่ปีนะคะ ของอัยมี่สอบ 3 วิชา แต่บางปีก็เหลือแค่ 2 วิชา) เเนะนำให้อ่านและทำแบบฝึกหัดจากข้อสอบเก่าได้เลยค่ะ ส่วนวิชา Anatomy ถ้าอ่านศึกษามาก่อนจะทำให้ตอนเรียนเข้าใจมากขึ้น เพราะเป็นวิชาหลักในวิชาการแพทย์ ช่วงเเรกเน้นท่องจำพวกกระดูก กล้ามเนื้อ ถ้าเราอยากให้เเม่น ก็อ่านท่องมาก่อน เพราะยังไงความรู้นี้ได้ใช้ไปตลอด  ส่วนน้องๆ ที่เป็นคนไทย-มุสลิมก็เเนะนำเรื่องเสื้อผ่าตัด เพราะที่นี่มีขายเเขนสั้น ให้เตรียมมาจากที่ไทยจะดีกว่าค่ะ หมวก เสื้อกาวน์ มาซื้อที่นี่ได้ค่ะ พวกอาหาร เเนะนำเอาพวกของเเห้ง หรือพวกเครื่องเเกง น้ำพริกต่างๆ ถ้าชอบกินเผ็ดนะคะ  ส่วนพวกซอสไม่จำเป็นต้องแบกมานะคะ เพราะที่นี่มีขายเเล้วทั้งในห้าง หรือสั่งผ่านจากทางแอปชื่อ ozon ค่ะ  ตอนนี้อาหารการกินค่อนข้างหาง่าย สะดวกสบายมากค่ะ  ส่วนเรื่องเสื้อหนาว ไม่ต้องขนมาจากไทย มาซื้อที่นี่จะดีกว่าค่ะ เอาเฉพาะที่จำเป็นก็พอ ส่วนเรื่องปลั้กไฟ หัวต่อมาซื้อที่นี่ได้ แต่ช่วงแรกให้ติดมาก่อน เพราะจะยังไม่มีเวลาไปซื้อในช่วงแรกๆ ที่มาถึง แนะนำให้ติดหนังสือภาษาไทยมาอ่านควบคู่กับหนังสือภาษาอังกฤษในวิชาสำคัญๆ เพื่อเพิ่มความเข้าใจมากขึ้น หรือ download เป็น e-book ก็สะดวกขึ้นค่ะ

ขอบคุณน้องอัยมี่ กาแบ ที่มาแชร์ประสบการณ์น่ารักๆ  

ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่างประเทศตั้งแต่ปี 1985
เรียนต่อโปแลนด์ ฟินแลนด์ รัสเซีย จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี แคนาดา สหรัฐ สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์
สมาชิกสมาคมไทยแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ (TIECA) สมาชิกหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย (Franco-Thai) และได้รับการรับรองโดย FELCA (The Federation of Education and Language Consultants Association) และ GSM Global Student Mobility

Recent posts