เดิมนั้นตำแหน่งนี้เคยเป็นของประเทศเดนมาร์ก แต่ตอนนี้เป็นเวลาของประเทศฟินแลนด์ ซึ่งได้ตำแหน่งประเทศที่ประชากรมีความสุขที่สุดในโลกถึง 4 ปีซ้อน จากการสำรวจและรายงานล่าสุดในปี 2021 จาก United Nations (UN) ส่วนประเทศอื่นๆ ที่ได้อันดับรองลงมาคือ Iceland Denmark และ Switzerland
(ดูลิสต์อันดับได้ที่ https://worldhappiness.report)
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่า the World Happiness Report คืออะไร การจัด Rank อันดับนั้นพิจารณาจากหลายองค์ประกอบด้วยกัน ทั้งดูจากคุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศ ความเป็นอิสระในการใช้ชีวิต GDP ความเอื้ออาทร ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในกลุ่มเพื่อนและในสังคม หรือดูจากดัชนีชี้วัดการคอรัปชั่นในประเทศ รวมไปถึงอารมณ์ของผู้ทำแบบสอบถามทั้งด้านดีและไม่ดี

เพราะอะไรจึงทำให้ประเทศฟินแลนด์ได้ตำแหน่งนี้มาติดๆ กันถึง 4 สมัย แม้ในช่วงที่ทั่วโลกเผชิญหน้าและได้รับผลการทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 พอจะสรุป ได้ดังนี้
ประเทศฟินแลนด์มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจโลกด้วยแบรนด์ต่างๆ ที่รู้จักกันอย่าง Nokia (โทรศัพท์มือถือ) Rovio (ผู้พัฒนาเกมส์ Angry Birds) Supercell (ผู้ก่อตั้ง Clash of Clans) และผลิตลิฟต์ในชื่อ KONE
ประเทศฟินแลนด์เป็นประเทศแรกๆ ที่ใช้รูปแบบการทำงานแบบ flat working ซึ่งเป็นตัวอย่างของการทำงานที่คนในประเทศเข้าถึงว่าการทำธุรกิจควรทำอย่างไร พอๆ กับที่ลูกจ้างต้องได้รับการปฎิบัติอย่างไรในที่ทำงาน โมเดลการทำงานแบบนี้ มีลำดับชั้นในตำแหน่งงานน้อยมาก บางที่ก็ไม่มีตำแหน่งเลย ซึ่งการทำงานมีความยืดหยุ่นสูง จะเน้นลงมือเป็นทีมเพื่อสร้างสรรค์ผลงานให้ดีที่สุด
พยายามปิดช่องว่างเรื่องเงินเดือนให้ไม่ต่างกันมากในหญิงชาย พร้อมๆ กับการศึกษาคุณภาพสูง อ่านบทความเพิ่มเติมด้านการศึกษาในฟินแลนด์ได้ ที่นี่

ฟินแลนด์เป็นประเทศเดียวในยุโรป ที่พ่อใช้เวลาร่วมกับลูกในช่วงวัยเรียนมากกว่าแม่ และเป็นเรื่องปกติที่แม่จะลางานยาวๆ หลายเดือนหรือหลายปี ในการเลี้ยงลูกให้เติบโตอย่างใกล้ชิด
ลดช่องว่างระหว่างฐานะของคน โดยรัฐบาลจะพยายามอย่างมากที่จะช่วยเหลือคนจนก่อน และปัญหาความไม่เท่าเทียมจะเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้เป็นอันดับต้นๆในการแก้ไขปัญหาเสมอ




มีอัตราคนไร้บ้านที่ต่ำที่สุด เนื่องจากทางรัฐบาลพยายามตามพันธะสัญญาที่จะช่วยเหลือประชากรให้มีบ้านอยู่ ผลักดันให้คนไร้บ้าน มีบ้านของตนเองอยู่ให้ได้
ดังนั้นไม่แปลกใจเลยที่ประเทศฟินแลนด์จะเป็นประเทศที่ครองอันดับหนึ่งถึง 4 ปีซ้อน ตรงกับข้อเท็จจริงที่ว่าประเทศฟินแลนด์ได้ผลักดันทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ การศึกษา การงาน และหวังว่าจะเป็นตัวอย่างที่ทำให้ประเทศอื่นๆ หันกลับมาดูแลประชาชนของตัวเอง นำไปปฎิบัติตามเพื่อพัฒนาความสุขให้แก่ประชาชนในประเทศตัวเองเช่นกัน
